Thursday, February 16, 2006

Le Cafe Siam


ร้าน: Le Cafe Siam
โทรศัพท์: 0-2671-0030
ประเภทอาหาร: ไทย-ฝรั่งเศษ
ราคา/ท่าน: ประมาณ 500-1,000 บาทต่อท่าน
อาหารแนะนำ: ตับห่าน สเต็ก
ที่จอดรถ: จอดรถริมฟุทบาทบริเวณหน้าร้าน
เปิดบริการ: ???? (คาดว่าน่าจะเปิดเฉพาะช่วงเย็นทุกวัน)

วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา (14/02/2549 จดไว้ก่อนเดี๋ยวลืมวันที่) ได้กลับไปกินที่ร้าน Le Cafe Siam อีกครั้ง ยังจำได้ว่าร้านนี้มีรุ่นพี่ที่ทำงานของแฟนแนะนำมาว่าอร่อย ตอนนั้นไปกินแล้วก็ประทับใจตับห่าน (ได้กินเป็นครั้งแรก) ว่าอร่อยมาก และอาหารอื่นๆอร่อย แต่ที่สำคัญคือบรรยากาศร้านนี่สุดยอดเลย คราวนี้เลือกร้านนี้อีกครั้งหนึ่ง สาเหตุไม่ใช่อะไร เพราะมันใกล้ครับ ใกล้กับที่ทำงานแฟน เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ

ร้านนี้อยู่บริเวณถนนเชื้อเพลิง ถ้ามาจากทางพระราม 4 ขาออก ตรงแยกที่เลี้ยวซ้าย-ขวาขึ้นด่วนพระราม 4 ให้เลี้ยวขวาตามพวกขึ้นทางด่วนไป แต่รีบชิดขวาแล้วไปช่องที่เขียนว่าไปถ. เชื้อเพลิง พอถึงแยกแรกก็เลี้ยวขวาเลย (มาคราวนี้เกือบเลยแน่ะเพราะไม่ค่อยได้มาจากเส้นนี้ ปกติมาจากทางคลองเตยมากกว่า) ขับไปตามทางอีกประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวา ใกล้ๆกับอู่รถแห่งหนึ่ง

มาถึงร้านคราวนี้ได้นั่งตรงระเบียงข้างนอกร้านร้านยังสวยเหมือนเดิม แต่เทียบกับร้านขวัญจิตรแล้วชอบสไตล์นั้นมากกว่าแฮะ อาจจะเพราะอายุมากขึ้นรสนิยมก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ร้านเค้าจัดโต๊ะเป็นคู่ๆ แล้วก็มีการโรยกุหลาบไว้บนโต๊ะ (รู้สึกคุ้นๆเหมือนร้าน circle ก็เคยจัดร้านสไตล์นี้ในวันวาเลนไทน์นะ) อาหารวันนี้ต้องสั่งเป็นเซ็ตครับ สั่ง A Lar Carte ไม่ได้ ตรงนี้เองก็เกิดความผิดพลาดขึ้นจนได้ คือปรากฎว่าในเซ็ตไม่มีตับห่าน! ซึ่งเป็นของที่อยากกินกันมากเลย ตอนโทรมาจองก็ว่าถามแล้วก็เห็นว่ามีนะแต่ปรากฎว่าไม่มี ก็ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ยังอยากกิน แต่แฟนผมความอยากกินลดไป 70% เลยมั้ง ยังดีที่มีช็อคโกแล็ตฟองดองอยู่เป็นของหวาน

เซ็ตของปีนี้มีแยกเป็นเซ็ตไทยและฝรั่งครับ ตามฟอร์มผมก็ต้องกินของฝรั่งล่ะ ของฝรั่งมี Apetizer เป็น กุ้งและหอยแมลงภู่ราดซอสอาโวกาโด (รู้สึกจะชื่อว่า Seafood Avogado หรืออะไรทำนองนั้น) อร่อยดีครับอันนี้ แต่ผมไม่ได้สั่ง ไปสั่งทูน่าแทน (จำชื่อเมนูไม่ได้ แต่เป็นทูน่าอัดและผสมกับพวกพริกหรืออะไรสักอย่าง อัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม และมีซอสราดข้างๆมาให้) ก็อร่อยเหมือนกันแต่ซีฟู้ดอร่อยกว่า ซุปของแฟนผมเป็น Mushroom Soup อร่อยเหมือนกันแต่กินแล้วจะร้อนๆ ของตัวผมอร่อยกว่าเป็น Seafood Cream Soup ชอบมากครับ เป็นครีมซุป ข้างในมีพวก กุ้ง หอย สับเล็กๆ ส่วน Main Course ของผมเป็นสเต้กเนื้อซึ่งถ้าจำไม่ผิดอันนี้จะกินเกือบทุกครั้งที่มาเลย (แต่ก็จำชื่อไม่ได้ซะที ห่ะๆ) ส่วนของแฟนเป็นปลา ของหวานตบท้ายด้วยช็อคโกแลตฟองดองเช่นเคย

ไฮไลท์อีกอย่างของร้านนี้คือการขึนไปทานของหวานที่ชั้น 2 ซึ่งคราวนี้ไม่ได้ขึ้นไปทานกันเพราะว่าเต็มครับ แต่ปกติแล้วถ้าเราสั่งของหวาน บริกรจะนำเราขึ้นไปชั้น 2 ของร้านซึ่งจัดเป็นคล้ายๆ มุมพักผ่อน มีโซฟาหลายตัว หนังสืออ่านเล่น บรรยากาศจะดูโบราณนิดๆ แต่ดูดีมากๆครับ บวกกับของหวานหลายอย่างที่อร่อย อย่างเครปซูเซ็ท หรือช็อคโกแลตฟองดองแล้วถือว่าเยี่ยมมากๆเลย

อาหารไทยร้านนี้จริงๆก็น่าจะอร่อยนะ แต่ยังไม่มีโอกาศมากินสักที ไว้ว่างจะลองหาโอกาศมาทดสอบดูครับ อ้อ ร้านนี้มีดีกรีเคยเป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมอยู่หลายปีด้วย (ดูจากป้ายหน้าร้าน) นอกจากนี้ร้านนี้ยังมีเวปไซต์ส่วนตัวอยู่ที่ http://www.lecafesiam.com ด้วย

รู้สึกผิดจังแฮะที่จำชื่ออาหารมันได้นิดเดียวเอง คราวหน้าต้องจำชื่อให้ได้ พักหลังรู้สึกว่าจะขี้ลืมจังแฮะ มีอะไรที่กินแล้วช่วยให้หายขี้ลืมมั่งน้อ
< รูปทั้งหมดมาจากเวปของทางร้านเองครับ >

Thursday, February 09, 2006

รายชื่อร้านอาหารน่ากิน

ไปก๊อปมาจากเวปอื่นอีกที น่าสนใจเหมือนกัน

ที่มา: http://board.dserver.org/r/rmoo/00000135.html

ข้อความ : ขอดก้นจาน: ร้านที่ควรไปลิ้มลอง ฉลองปีใหม่ 2548
"รสอร่อย" ของอาหารขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายประการ รสอาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่ง นอกนั้นขึ้นอยู่กับบรรยากาศ การบริการ ราคา เพื่อนร่วมโต๊ะ ความชอบและความรู้เรื่องอาหารนั้นด้วย "ขอดก้นจาน" ในรอบปีที่ผ่านมาผู้เขียนพยายามเลือกสรรร้านที่เหมาะสม ทั้งรสชาติอาหาร บรรยากาศ การบริการ และราคามาแนะนำ เนื่องในวันปีใหม่นี้ผู้เขียนเลือกร้านที่เหมาะจะพาครอบครัวไปกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา มีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด


เลอ ปลาแดก

"เลอ ปลาแดก" (Le Pla Daak) อยู่ที่ ถ.สุขาลำเจียก คลองกุ่ม มาจาก ถ.เกษตรนวมินทร์ เมื่อลอดใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ให้เลี้ยวขวา จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้า ถ.สุขาลำเจียก ไปประมาณ 500-600 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ หาไม่ยาก

ในร้านตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้เก่า ประเภทสังกะสีเคลือบ เช่น หม้อ หม้ออวย ถ้วยกาแฟ ถ้วย ช้อน จาน ชาม เป็นต้น นอกนั้นก็มีวิทยุ นาฬิกา เครื่องมือช่างไม้ต่างๆ สลับกับรูปภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น อีกมุมหนึ่งทำเป็นร้านขายงานหัตถกรรมฝีมือเยี่ยมของเจ้าของร้าน

เมื่อลูกค้าเข้าไปนั่งจะเสิร์ฟวิทยุทรานซิสเตอร์ให้ลูกค้าเปิดฟังเพลง และทางร้านมีสถานีวิทยุคลื่นสั้น เอฟเอ็ม 107.7 เมกะเฮิรตซ์ เปิดสาระความรู้ต่างๆ และจัดเพลงยุค 60-70-80 ของไทยทั้งลูกทุ่งและลูกกรุง มากลางวันโชคดีอาจจะได้กิน ก๋วยเตี๋ยวปลาย่าง สูตรที่ไม่เหมือนใคร บางวันอาจมี แหนมข้าวทอด ส่วน ส้มต้ม จะเสิร์ฟกับขนมปังกระเทียมและไวน์ขาว ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ ส้มตำครกแตก ชอบสปาเกตตี ต้องสั่ง สปาเกตตีหลวงพระบา ซึ่งในโลกนี้คงมีที่นี่แห่งเดียว เป็นต้น โทร.0-2579-3895

เลอ บูชอง

"เลอ บูชอง" (Le Bouchon) อยู่ในพัฒนพงษ์ ซอย 2 ซอยเดียวกับฟู้ดแลนด์ ถ้าเข้าทางสีลมฟู้ดแลนด์เดินเข้าไปอีก 50 เมตรเศษๆ แถวนั้นจะเป็นตึก 2-3 ชั้น เรียงรายไปด้วยบาร์ต่างๆ ร้านจะอยู่ชั้นล่าง หาไม่เจอถามคนแถวนั้นรู้จักกันดี

"เลอ บูชอง" เป็นร้านเล็กๆ มีโต๊ะเพียง 9 โต๊ะ เปิดมาประมาณ 8-9 ปีแล้ว แต่เรื่องของรสชาติอาหารไม่ได้เล็กเหมือนพื้นที่ร้านเลย ลูกค้าต้องรอกิน ถ้าไม่จองโต๊ะล่วงหน้า

เมนูจะเขียนบนกระดานดำขนาดเล็กมีประมาณ 30 รายการ ไม่ได้พิมพ์เป็นแผ่นๆ วางไว้ตามโต๊ะเหมือนร้านอาหารทั่วไป พนักงานจะนำไปแนะนำตามโต๊ะต่างๆ เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์คลาสสิกเน้นคุณภาพและรสชาติเป็นสำคัญ ไม่จำเป็นจะต้องสั่งเป็นคอร์ส แค่ไวน์ 1 แก้ว อาหารจานหลักอีก 1 จานก็ได้ หรืออาจจะสั่งซุปหรือสลัดสักอย่างแล้วตามด้วยจานหลักที่ชอบอีกสักอย่าง

เมนูอร่อย เช่น เกี๊ยวตับห่านในซอสพอร์ตไวน์ ขากบทอด (frogs'legs) สูตรดั้งเดิมมาจากเมืองลีออง เนื้อกระต่ายในมัสตาร์ดซอส หน้าแข้งแกะ อกเป็ดราดซอสเห็ด และ กุนเชียงฝรั่งเศส เป็นต้น เปิดบริการทุกวันโทร.0-2234-9109

บ้านน้ำเคียงดิน

"บ้านน้ำเคียงดิน" อยู่ถนนอักษะ เยื้องไปทางพุทธมณฑลสาย 3 ถ้ามาจากทางพุทธมณฑลสาย 3 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอักษะเล็กน้อยร้านจะอยู่ซ้ายมือ แต่ถ้ามาจากทางสาย 4 เลี้ยวเข้าถนนอักษะแล้วต้องไปอีกพอสมควร

ร้านเป็นบ้านทรงสวยสไตล์คันทรี (Country) เข้าไปแล้วสวยงามแวดล้อมด้วยธรรมชาติของพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ยืนต้นและดอกไม้แสนสวย สีสันสวยงาม รวมทั้งสวนองุ่นเหมือนชนบทของยุโรปแถวเยอรมนี ออสเตรีย ฮังการี โดยเฉพาะชุดแต่งกายของพนักงาน เหมือนหลุดเข้าไปในร้านอาหารในยุโรป

อยากสัมผัสกับลมเย็นๆ อากาศโปร่ง โล่งลมเย็นสบาย ก็เลือกนั่งด้านนอก ซึ่งแต่ละมุมประดับด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด แต่ถ้าชอบแบบเย็น แบบเครื่องปรับอากาศเชิญด้านใน ที่เป็นแบบยุโรปหรูหราสง่างาม พร้อมดนตรีขับกล่อม

เมนูที่อร่อยมีหลายอย่าง เช่น ส้มตำกุ้งสด ส้มตำปูไข่ดอง กุ้งอบเกลือ เป็ดตุ๋นมะนาวดอง ปลากะพงนอนสบาย ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว และ ปูเนื้อพริกไทยดำ ส่วนอาหารตะวันตก เช่น หอยแมลงภู่อบเครื่องเทศ ลาซานญ่าทะเลรวม และที่พลาดไม่ได้ ขาหมูทอด สูตรเยอรมัน เป็นต้น โทร.0-2441-3837

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย

"ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" หากินได้ในทุกอำเภอของ จ.สุโขทัย รสชาติผิดแผกแตกต่างกันออกไปบ้าง ในกรุงเทพฯ ขอแนะนำสัก 3 ร้าน

"สุขโขทัย อยู่ที่ใกล้แยกสุนทรโกษา ด้านตลาดคลองเตย 2 หาไม่เจอถามแม่ค้าแถวนั้นก็ได้ สูตรมาจาก ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย น้ำซุปหอม หวาน ต้มเคี่ยวจากกระดูกหมูส่วนสันหลัง ขณะที่หมูแดงหมักเครื่องเทศหอมกรุ่นนุ่มเนียนลิ้น เปิดเวลา 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น โทร.0-9517-9700

"สมทรงโภชนา" ในซอยเข้าวัดสังเวชวิศยาราม เป็นซอยที่อยู่ข้างๆ ป้อมพระสุเมรุ เมื่อเข้าซอยและข้ามสะพานไปแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอร้านอยู่ทางขวา ร้านนี้ขายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2514 เจ้าของเป็นชาว อ.สวรรคโลก ความพิเศษคือ หมูแดงชิ้นใหญ่แต่นุ่ม และใส่น้ำหมูแดงด้วย ขนมจีนซาวน้ำ ก็อร่อย เป็นขนมจีนซาวน้ำที่ใช้เครื่องแบบโบราณ เปิดบริการทุกวันเวลา 9 โมงครึ่ง-บ่าย 3 โมงครึ่ง โทร.0-2282-0972

"แม่บุญรอด" เปิดขายมาประมาณ 7-8 ปี อยู่ริมถนนประดิษฐ์มนู เป็นสูตร อ.ศรีสำโรง เครื่องปรุงต่างๆ เหมือนสูตร อ.สวรรคโลก แต่ไม่ใส่น้ำหมูแดง และใช้ไชโป๊จากสุโขทัย เนื่องจากไม่เค็มจนบาดคอ เปิดเวลา 9 โมงเช้า-ประมาณ 4 โมงเย็น และจะหยุดช่วงเทศกาลสำคัญ โทร.0-1446-1624

สลักเพชร ซีฟู้ด

"สลักเพชร ซีฟู้ด" อยู่สุดปลายเกาะช้างใต้ เลขที่ 43 หมู่ 2 ต.เกาะช้างใต้ กิ่ง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เมนูเด็ดคือปลา "ย่ำสวาท" มีชื่อเรียกต่างๆ กันตามพื้นที่ เช่น กะรัง กุดสลาด เก๋าแดงดอกหมาก ขณะที่ชื่อเรียกอย่างทางการของกรมประมงคือ กะรังแดงจุดฟ้า แต่ชาวเกาะช้างเรียกกันว่า "ย่ำสวาท"

ร้านอาหารบนเกาะช้างจะขายปลาย่ำสวาทขนาด 1.2-1.5 กิโลกรัมราคากิโลกรัมละประมาณ 900-1,200 บาท แต่ถ้าส่งไปขายฮ่องกงจะได้ราคากิโลกรัมละ 4,500-5,000 บาท แต่ที่ถือว่ากำลังน่ากินคือ 2-3 กิโลกรัม เนื้อจะนุ่มกว่าปลาเก๋ามาก และกระดูกอ่อน คนจีนถือว่ากินแล้วจะช่วยเสริมพลังทางเพศ ปัจจุบันจับได้เท่าไรก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

เมนูเด็ดของสลักเพชร ซีฟู้ด มีหลายอย่าง เช่น ซาซิมิย่ำสวาท ย่ำสวาทนึ่งซีอิ๊ว แค่ 2 อย่างนี้ก็คุ้มแล้ว ส่วนอย่างอื่น เช่น ปลาเก๋าสามรส ปลากะพงเกล็ดกรอบ ปลากระบอกต้มส้ม กั้งทอดกระเทียมพริกไทย กุ้งอบเกลือ ปูม้านึ่ง จ้าวพิภพผัดขี้เมา จ้าวทะเลผัดฉ่า หอยเชลล์ผัดฉ่า หอยตลับผัดพริกเผา ยำหอยโข่ง เป็นต้น สอบถามที่โทร.0-3952-1751

ครัวคุณสมร

ร้าน "ครัวคุณสมร" อยู่ที่ ถ.ประชาอุทิศ ถ้ามาจากแยกเหม่งจ๋ายซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ร้านจะอยู่ขวามือฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มโมบิลเก่า แต่ถ้ามาจากใต้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เมื่อข้ามคลองลาดพร้าวแล้วให้ชิดซ้ายเอาไว้ ร้านจะอยู่ไม่ไกลจากคลองดังกล่าว

ร้านครัวคุณสมร เคยขายอยู่เพลินจิตมากว่า 20 ปี และย้ายมาอยู่ที่ปัจจุบันนี้ประมาณ 15-16 ปี เมนูเด็ดคือ "ซุปหางวัว" ซึ่งตุ๋นด้วยเตาถ่านตุ๋นประมาณ 4-5 ชั่วโมง ตุ๋นกับเครื่องเทศหลายอย่าง นอกนั้นก็มี มัสมั่นเนื้อ มัสมั่นไก่ ข้าวหมกไก่ แกงกุรหม่าไก่ แกงกะหรี่ เนื้อทอด เนื้ออบ เป็นต้น แต่ละอย่างเป็นสูตรที่ขายมากว่าครึ่งศตวรรษ เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลาประมาณ 9 โมงเช้า-6 โมงเย็น

เตี๋ยวเรือหลุม

"เตี๋ยวเรือหลุม" เข้า ซ.วัดแขก ถ.สีลม ประมาณ 40-50 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ มีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือเจาะรูที่โต๊ะเป็นหลุมขนาดพอดีกับก้นชามก๋วยเตี๋ยว เมื่อยกชามมาเสิร์ฟก็จะวางในหลุม

น้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวเรือหลุมจะใช้เครื่องยาจีนผสมกับเครื่องเทศกว่า 20 รายการ ชั่ง ตวง วัด ตามมาตรฐานของทางร้าน และแทบจะไม่ต้องเติมเครื่องปรุงเลย ลูกชิ้นหมู เนื้อหมู และหมูสดนุ่ม หอมเครื่องหมัก เหนียวนิดๆ กำลังดี มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ เกาเหลา และวุ้นเส้น

ร้านนี้ยังมีอาหารอร่อยๆ อีกหลายอย่าง เช่น ข้าวเกรียบปลาทอดปักษ์ใต้ ปีกไก่แช่น้ำปลาทอด ข้าวผัดปลาทูใส่กากหมู ลูกชิ้นหมูลวกจิ้ม ส้มตำต่างๆ และ ข้าวผัดปลาทูใส่กากหมู ที่อร่อยและเหมือนใคร เปิดบริการทุกวัน วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 9 โมงเช้า-1 ทุ่ม วันอาทิตย์ปิดเวลาบ่าย 3 โมง โทร.0-2235-6496

เรืองฤทธิ์

"เรืองฤทธิ์" เป็นร้านขนาดกลางๆ แต่รสชาติอาหารอลังการ อยู่ที่ ซ.วัดหัวกระบือ ถ.พระราม 2 เข้าซอยไปประมาณ 6-7 กิโลเมตร

เมนูเด็ดคือ "ปูผัดผงกะหรี่" ซึ่งใช้ปูทะเลธรรมชาติ หรือปูดำเลี้ยง ขนาดประมาณ 7-8 ขีด ใครจะรู้หรือไม่ว่าปูผัดผงกะหรี่สีเหลืองกลิ่นชวนให้น้ำลายสอนั้น ใช้เครื่องปรุงไม่ต่ำกว่า 15 อย่าง ซึ่งกุ๊กต้องมีฝีมือจริงๆ เจ้าของร้านเรืองฤทธิ์เป็นน้องชายของ เจ้าของร้านสมบูรณ์โภชนา ติดกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ที่แทบทุกคนรู้จักกันดี ช่วยพี่สาวอยู่หลายปีก่อนจะมาเปิดร้านเรืองฤทธิ์เมื่อปลายๆ ปี 2542 เมนูอร่อยอื่นๆ เช่น กะพงทอดราดน้ำปลา ปลาช่อนหลงบ้าน และ หมูสะเต๊ะ โทร.0-2897-2197

เวียดนามปทุมธานี

"ร้านเวียดนามปทุมธานี" อยู่เลยศาลากลางหลังใหม่ปทุมธานีไปเล็กน้อย จับจุดที่ศาลากลางหลังใหม่ ไม่ไกลกันนักมีปั๊มน้ำมันเจ็ท เลี้ยวขวาตรงปั๊มประมาณ 300 เมตรเศษๆ

รสชาติของอาหารเวียดนามร้านนี้ไม่ใช่เล่น เจ้าของร้านเป็นคนนครพนม ดินแดนที่มีอาหารเวียดนามอร่อยๆ ระดับแนวหน้าของเมืองไทย เมนูของร้านเช่น ปากหม้อญวน แหนมเนือง หรือ แนมเนื้อง ข้าวเหนียวไก่ทอด ปลากะพงทอด ส้มตำไทย เสิร์ฟพร้อมส้มตำไทยที่วางมาบนใบกะหล่ำปลี

เมนูอื่นๆ เช่น ข้าวผัดเวียดนาม เฝอ ต้มเส้นญวน ขนมเบื้องญวน เปาะเปี๊ยะสด กุ้งพันอ้อยต้มเส้นญวน และ ต้มยำปลากะพงน้ำใส วันหยุดราชการจะมีเมนูพิเศษ นอกเหนือจากเมนูในรายการ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.30-21.00 น. โทร.0-2581-5670

แหล

"แหล" อยู่ในซอยทาวน์ อิน ทาวน์ 19 เปิดมาได้ประมาณ 8-9 ปีแล้ว ปัจจุบันขยายสาขาไปอีกแห่งที่พรีเมียร์ พระราม 9

"แหล" มีความหมายว่า การพูดคุยกันแบบเฮฮา สนุกสนาน ช่างพูดช่างคุย แต่ต่อมามีคำสแลงเกิดขึ้น คนที่พูดมากเกินควร แถมยังมีการเติมแต่งเรื่องราวต่างๆ จนเกินจริง ก็เลยเกิดคำว่า "ตอแหล" ขึ้น

เสน่ห์ของร้านแหลคือเป็นอาหารแบบไทยพื้นบ้านชลบุรี เมนูส่วนหนึ่งจึงมีอาหารทะเลหรือซีฟู้ด กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก มีครบครัน เช่น เกล็ดปลาทอด แปลก อร่อย และมีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ยำหมึกแดดเดียว สั่งหมึกมาจากเมืองชล หมึกไข่เค็ม เป็นจานที่ขึ้นชื่อของร้านนี้มานาน และ ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ ส่วนเมนูที่ไม่ใช่ซีฟู้ดต้องสั่ง กระดูกต้มแซบ

โป่วเทียมเฮง

"โป่วเทียมเฮง" ตำนานก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านหนึ่งของเมืองไทย เริ่มขายที่ซอยอโศก หรือสุขุมวิท 21 ตั้งแต่ปี 2508 เมื่อมีการรื้อตลาดอโศกปิดกิจการ แล้วหันมาเปิดขายตามฟู้ดเซ็นเตอร์ ในศูนย์การค้าต่างๆ ทำให้โกอินเตอร์ เพราะมีลูกค้าต่างชาติติดใจกันมาก ปัจจุบันถ้าจะกินต้องมาที่ฟู้ด ปาร์ค ชั้น 2 ประตูน้ำ เซ็นเตอร์ ตรงหัวมุมถนนราชปรารภ

เสน่ห์และความอร่อยของเขาอยู่ที่น้ำซุปที่หวานหอม เกิดจากการต้มเคี่ยวด้วยเครื่องเทศสมุนไพรกว่า 10 ชนิด เนื้อตุ๋นและเอ็นตุ๋นของร้านนี้นุ่มเนียนลิ้นมาก เนื้อสดและเครื่องในก็หอมสะอาด เพราะใช้เนื้อวัวคุณภาพดีและได้มาตรฐาน เมื่อตุ๋นออกมาแล้วจึงได้รสชาติ

อีกอย่างหนึ่งที่อร่อยและนุ่มเนียนไม่เหมือนใครคือตัวเดียวอันเดียว ที่เชื่อกันว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย หรือยาโป๊ว มีคนฮ่องกง สิงคโปร์มาอุดหนุนกันมากมาย

ครัวเขาใหญ่

"ครัวเขาใหญ่" อยู่ทางขึ้นเขาใหญ่ ด้าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากถนนมิตรภาพ เลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์ จะเจอฟาร์มโชคชัย 3 ทางขวามือ ไปเรื่อยๆ ประมาณ 13-14 กม.ทางซ้ายมือจะมีรีสอร์ทวู้ดปาร์ค เลยไปนิดเดียว

ร้านนี้ขาย แฮมและเบคอนเป็นหลัก เป็นแฮมและเบคอนที่หลายคนบอกว่ารสชาติแบบนี้ไม่มีให้ลิ้มลองในเมืองกรุง เจ้าของร้านทำเองทุกอย่างแบบโฮมเมด ขอแนะนำให้สั่ง แฮมสันนอกทอด แฮมซี่โครงหมูทอด แฮมขาหมู แฮมพริกไทยดำ เบคอนทอด สลัดแฮม ยำแฮม เมนูอย่างอื่น เช่น ยำแฮม สลัดแฮม เป็นต้น เปิดบริการประมาณ 7 โมงเช้า ถึง 2-3 ทุ่ม โทร.0-4429-7137-8

ผกากรอง

"ผกากรอง" อยู่ระหว่าง ซอย 15 กับ 17 ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ ทุ่งมหาเมฆ สาธร ไปรถไฟฟ้าลงที่สถานีช่องนนทรีฝั่งซ้ายแล้วเดินไปนิดเดียว ร้านอยู่ด้านซ้ายติดถนนหาง่าย

ร้านผกากรองเปิดมากว่า 15 ปี สิ่งที่ทำให้ลูกค้าติดใจและเป็นสิ่งที่ร้านไทยควรกระทำอย่างยิ่ง คือ ทำอาหารไทยแบบไทยแท้ รสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่อง ครบเครื่อง ทั้งที่ลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างประเทศ เพราะตำเครื่องแกงเอง

เมนูอร่อยๆ มีหลายอย่าง เช่น กุ้งผัดพริกขิง ซึ่งปัจจุบันหาผัดพริกขิงอร่อยๆ ถึงเครื่องกินไม่ค่อยได้ กุ้งสามรส ก็ใช้ได้ หรืออาจจะสั่ง ผัดเผ็ดปลาสลิดยอดมะพร้าวอ่อน มาคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ปลาทับทิมยำสมุนไพร เป็นอีกจานหนึ่งที่คนรักปลาไม่ควรพลาด โทร.0-2676-1213-4

ยางเดี่ยว

"ยางเดี่ยว" อยู่ตรงข้ามวัดชุมพลนิกายารามราชวรวิหาร อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเรือนไม้ ด้านหลังใกล้กับแม่น้ำที่แยกออกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศร่มรื่น ลมพัดโชยฉิวเย็นสบาย สาเหตุที่ชื่อนี้เพราะมีต้นยางสูงเด่นเป็นสง่าขึ้นอยู่หน้าร้านหนึ่งต้น เป็นร้านที่ไม่ธรรมดา เพราะขายมาเฉียดๆ 50 ปี และอาหารทุกจานปรุงจากเตาถ่าน ไม่เคยใช้เตาแก๊ส

จานที่ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึงบางประอินคือ กุ้งเผา ใช้กุ้งก้ามกรามหรือกุ้งแม่น้ำที่ซื้อจากชาวบ้าน ซึ่งลงเรือไปตกกลางเจ้าพระยา ผ่าครึ่งตัวแล้วนำไปย่างบนตะแกรงบนเตาถ่าน ปิดด้านบนด้วยฝาอะลูมิเนียม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ได้กินกุ้งเนื้อหวาน มันเต็มหัว คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ เหยาะน้ำจิ้มนิด สุดยอดจริงๆ

เมนูอย่างอื่น เช่น ต้มยำกุ้ง ซึ่งคนที่กินบอกว่านี่แหละใช่เลย รสชาติต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับต้มยำกุ้งในเมืองกรุง อีกอย่างหนึ่งที่คู่กับยางเดี่ยวมาตลอดคือ เนื้ออบ ถ้าชอบปลาควรสั่ง ปลาเนื้ออ่อนทอด หรือ ฉู่ฉี่ปลาน้ำเงิน รวมทั้ง แกงป่านานาชนิด ร้านเปิดเวลาประมาณ 11 โมง-1 ทุ่ม โทร.0-3526-1135

สุธาโภชน์

"สุธาโภชน์" อยู่ในซอยพหลโยธิน 40 ฝั่งเดียวกับโรงแรมมารวยการ์เด้นส์ เข้าซอยไปประมาณ 500 เมตร เป็นเรือนไม้ตกแต่งง่ายๆ สบายๆ แต่ที่หลังคามีกาแล ปลูกต้นไม้ไว้เต็มบริเวณร้าน โดยเฉพาะสมุนไพรชนิดต่างๆ

เป็นร้านที่นอกจากจะมีเมนูปลาอร่อยหลายอย่างแล้ว ยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ อาหารแต่ละจานจะทำจานต่อจานเมื่อลูกค้าสั่ง ไม่มีการทำไว้ล่วงหน้า เพราะฉะนั้นท่านที่ไปแล้วอาหารออกช้าบ้างก็อย่าว่ากัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นความพิถีพิถันของเขา

เมนูปลาอร่อยๆ เช่น ปลากรายสมุนไพรลวกจิ้ม ปลาแรดทอดตะไคร้ แกงส้มปลาช่อนยอดมะพร้าว ปลาช่อนสมุนไพร ปลาแรด 2 ใจ ต้มยำขาหมู หมูป่าผัดเผ็ด ปูไข่ดอง กุ้งเหล้าจ๋า ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ เป็นต้น เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น โทร.0-2579-7226

ฮอร์ส บาร์น

"ฮอร์ส บาร์น สเต็กเฮ้าส์" (Horse Barn Steak House) หรือถ้าเรียกแบบไทยๆ ก็คือ บ้านม้า อยู่ในซอยรามอินทรา 40 หรือซอยนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม

ร้านนี้เหมาะกับการพาครอบครัวไป มีสถานที่ให้เด็กเล่น และมี 2 บรรยากาศให้เลือกคือในห้องปรับอากาศตกแต่งด้วยภาพและสิ่งของเก่าๆ มากมาย และด้านนอกเป็นสนามหญ้า มีเวทีวงดนตรีทำฉากหลังเวทีเป็นบ้านเรือนคาวบอย ด้านหลังเวทีเป็นคอกม้ามีม้าหลายตัวให้คนที่อยากขี่ม้าถ่ายรูปแบบคาวบอย มีผ้าพันคอ และหมวกไว้ให้แต่งตัว อีกด้านหนึ่งจำลองเป็นบ้านนายอำเภอ พร้อมรูปคาวบอยขี่ม้าให้เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่ชอบถ่ายรูป

วันศุกร์-วันเสาร์ จะมีการย่างบาร์บีคิวที่สนาม ให้ลูกค้าอิ่มอร่อย และเพลิดเพลินด้วยเสียงดนตรีแนวคันทรีและโฟล์คซอง ยุค 60-70 เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 1 ทุ่มเป็นต้นไป

อาหารของร้านฮอร์ส บาร์น ส่วนใหญ่เป็นแบบตะวันตก แต่เป็นอาหารฝรั่งที่กินง่ายๆ ไม่ได้ยุ่งยาก บางอย่างเป็นเมนูสุขภาพ ราคาไม่แพง ที่สำคัญร้านนี้ทำซอสสเต็กได้อร่อยมาก เห็นว่าเคยมีการเปิดสอนทำอาหารด้วย ใครสนใจลองสอบถามเขาดู

เมนูอร่อยเช่น ไส้หมูหันฮอร์ส บาร์น เปาะเปี๊ยะไส้ผักโขม และสเต็กอร่อยๆ หลายอย่างทั้งเนื้อ หมู ปลา โดยเฉพาะ สเต็กปลาแซลมอนย่างราดมูเนียร์ซอส เป็นต้น เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11 โมงเช้า-ประมาณ 5 ทุ่ม โทร.0-2944-6579

Wednesday, February 08, 2006

หูฉลามเฉลิมบุรี

ร้าน: หูฉลามเฉลิมบุรี
โทรศัพท์: ?????
ประเภทอาหาร: จีน
ราคา/ท่าน: ประมาณ 200-500 บาทต่อท่าน (ถ้าไม่กินหลายๆชาม)
อาหารแนะนำ: หูฉลาม
ที่จอดรถ: ข้างร้านมีที่จอดรถ ต้องเสียค่าจอดรถ
เปิดบริการ: ????

วันอาทิตย์ก่อนพาแฟนและครอบครัวของแฟนไปเลี้ยงอาหารเนื่องในโอกาศตรุษจีน คราวนี้พาไปเลี้ยงที่ร้านหูฉลามเฉลิมบุรี ร้านอาหารเก่าแก่ที่มีมานานมากๆแล้วของเยาวราช แต่เป็นร้านใหม่สำหรับผม เพราะเคยกินครั้งเดียว(มั้ง) ตอนเด็กๆแล้วก็ไม่ได้กลับไปกินอีกเลย ร้านอยู่ตรงใกล้ๆโรงหนังเฉลิมบุรีเก่า เดี๋ยวนี้ทางไปง่ายเพราะมันวันเวย์ลูกเดียวเลย คือเข้าถนนเยาวราชมาจากทางถนนพระราม 1 ผ่านหน้ารร. ปิง พอเลี้ยวขวาแล้วรีบชิดขวาเลยเพราะต้องเลี้ยวแยกแรกทันที เลี้ยวไปแล้วจะเจอร้านอยู่ทางขวา ต้องไปจอดรถตรงโรงหนังเก่า มีคนคอยโบกจอดบริการโอเคครับ เสร็จแล้วอย่าลืมรับบัตรจอดและจ่ายค่าจอดก่อนเดินไปที่ร้านด้วย ค่าจอดเริ่มต้น 40 ชม.ละ 20 ได้ (ถ้าจำไม่ผิด)

ตัวร้านก็ยังเป็นเหมือนเดิมเลย ตามสไตล์ร้านแถวเยาวราชคือ ทึบๆอับๆสกปรกนิด แต่รสชาติอาหารอร่อย แต่ทว่าผมเองไม่ได้ชอบหูฉลามซะด้วยสิ แล้วอาหารอื่นๆของร้านนี้ที่อร่อย ได้แก่ ผัดหมี่ ซึ่งเต็มไปด้วยถั่วงอกและกูไช่ เนื้อแพะ ซึ่งเป็นของแปลกๆ ก็ไม่ใช่สไตล์ผมซะทีเดียวครับ แต่โดยรวมๆแล้วก็อร่อยพอสมควร แต่ถ้าถามว่าชอบไม๊ ก็คงต้องตอบว่าโอเค แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ เพราะส่วนตัวผมไม่ได้ชอบกินหูฉลามเท่าไหร่อยู่แล้วไม่ว่าเจ้าไหน แต่สำหรับเจ้านี้ก็ต้องถือว่าอร่อยครับ แต่แฟนผมและครอบครัวของเธอชอบมากๆเลย

Friday, February 03, 2006

แหล - อาหารไทยอร่อยๆย่านรามคำแหง - พระราม9

ร้าน: แหล
โทรศัพท์: 0-2671-0030
ประเภทอาหาร: ไทย
ราคา/ท่าน: ประมาณ 100-300 บาทต่อท่าน
อาหารแนะนำ: หมูจิ้กโก๋ กุ้งผัดไข่เค็ม ปูนิ่มทอดกระเทียม
ที่จอดรถ: จอดรถริมฟุทบาทบริเวณหน้าร้าน หรือบริเวณในหมู่บ้าน
เปิดบริการ: ทุกวัน เว้นวันอาทิตย์

พอจะไปธุระแถวลาดพร้าว หรือ ถ. เลียบทางด่วนพระราม 9-รามอินทรา ทีไรต้องแวะไปกินแหลก่อนทุกที ยังจำได้ว่าไอ้ร้านนี้มันปิดวันอาทิตย์ทำให้พลาดโอกาศไปกินตั้งหลายที คราวนี้ได้โอกาศต้องไปซะหน่อย

แหล อยู่ในหมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ในซ. รามคำแหง 39 (มั้ง) จำเลขซอยแน่นอนไม่ได้ แต่เข้าจากทางพระราม 9 - รามอินทรานี่ง่ายกว่าเยอะเลย เจอแยกไฟแดงตรงกลางถนน ก่อนที่จะถึง ถ. ลาดพร้าว แยกนั้นก็เลี้ยวขวาเลย แล้วเลี้ยวซ้ายแยกแรก เจอทางเข้าหมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ทางขวาปุ้ปเลี้ยวเลยแล้วตรงไปจนเกือบๆสุด จะอยู่ทางขวา

มาคราวนี้ก็เหมือนเดิมครับ แทบไม่ต้องเปิดเมนูแล้ว หมุจิ้กโก๋ กุ้งผัดไข่เค็ม ส่วนอีกอย่างก็เป็นแกงแล้วแต่อารมณ์ คราวนี้เหมือนเดิมอีก แกงจืดผักกาดขาวเ้ต้าหู้หมูสับ แล้วก็ตบท้ายด้วยไอศครีมกะทิสดโรยถั่ว ทุกครั้งนี่ผมแทบไม่ต้องเปิดเมนู นาจะถามแต่ว่าจะเอาอีกอย่างเป็นอะไร ผมก็มักจะตอบไปว่า "ก็แล้วแต่" :-P แล้วก็จะสั่งเซ็ตเดิมสามอย่าง

มากินเมนูเซ็ตนี้ทีไรกินหมดทุกที กับหมดจาน ข้าวเกลี้ยงเลย แถมยังต้องถือโอกาศโกยไข่เค็มบดที่เหลือในกุ้งผัดไข่เค็มมากินต่ออีก ราคาก็ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ ตกคนละ 150 ได้ถือว่าโอเคเลยเนี่ย แต่ถ้าสั่งปูนิ่มทอดกระเทียมสงสัยงบบานปลายกว่านี้